Calcium L-Threonate
การทำงาน : แคลเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ควบคุมการเกร็งกล้ามเนื้อ (Muscle contraction) ส่งสัญญาณกระตุ้นเส้นประสาท (Nerve Impulses) แก้ภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) และข้อเข่าเสื่อม (Arthritis) ซึ่งมีอัตราเสี่ยงสูงในวัย 50+ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน (Diabetes) ความดันโลหิตสูง (Hypertension) และผู้ใช้ยาสเตียรอยด์ (Corticosteroids)
ปริมาณต่อวัน : RDA ในกลุ่มทั่วไป 1500 mg กลุ่มกระดูกพรุนและข้อเข่าเสื่อม 1800-2000 mg
ปริมาณสูงสุดที่ปลอดภัย : 2500-3000 mg ต่อวัน
ต่ำกว่าเกณฑ์ : แคลเซียมไม่เพียงพอจะทำให้กระดูกบาง กระดูกข้อเสื่อม สูญเสียฟัน เป็นตะคริว ความดันโลหิตสูง
แหล่งอาหาร : นมไขมันต่ำ โยเกิร์ต ชีส ผักใบเขียว เต้าหู้ น้ำส้มคั้น นมถั่วเหลืองและอัลมอนด์
ปฎิกิริยา : กลุ่มยาที่อาจมีผลกระทบต่อระดับแคลเซียม ยาปฎิชีวนะ (Antibiotics) ยาสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ยาขับปัสสาวะ (Diuretics) ยากันชัก (Anti-convulsants) ยาลดกรด (Antacids)
ผลวิจัย : กว่า 12 ฉบับที่ชี้ชัดว่า แคลเซียมชนิดแอลทรีโอเน็ต (Calcium L-Threonate) ช่วยเพิ่มมวลกระดูก (Bone density) ในหญิงและชายได้ชัดเจน ลดโอกาสกระดูกสะโพกแตกร้าวได้ 30% และยังมีผลวิจัยที่พบว่า Calcium L-Threonate สามารถเพิ่มน้ำเลี้ยงข้อเข่า ช่วยลดปวดข้อเข่า เหมาะกับผู้สูงวัย คนไข้โรคกระดูกและข้อเข่าเสื่อม นักกีฬา
ความปลอดภัย : เป็นแคลเซียมชนิดสกัดจากพืช ปราศจากหินปูน ใช้ต่อเนื่องได้ปลอดภัยทั้งเชิงป้องกันและรักษา ไม่เกิดการสะสม ไม่ก่อให้เกิดนิ่วหรืออุดตันหลอดเลือด ไม่ทำให้ท้องผูก
ผลิตภัณฑ์แนะนำ : โอโวแคล (OVOCAL® Calcium L-Threonate + NEM®) เป็นแคลเซียมแอลทริโอเน็ตเกรดพรีเมียม ที่เหมาะใช้ระยะยาว (Long term usage) มีผลวิจัยรองรับ นิยมใช้ในคลินิกแพทย์เฉพาะทางระดับบนในสหรัฐ ในการรักษาฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อม กระดูกสันหลังและคอทับเส้นประสาท ภาวะกระดูกพรุน แตกร้าว โดยไม่ต้องผ่าตัด รวมไปถึงการใช้ลดปวด ลดอักเสบข้อต่อ ในผู้ป่วยรูมาตอยด์ เก๊าท์
โดดเด่นด้วยส่วนผสมของ Natural Eggshell Membrane (NEM®) ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรในสหรัฐ สกัดจากธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างและผิวกระดูกอ่อนที่เสื่อมสภาพ แก้การติดขัด ลดการเสียดสี และช่วยฟื้นฟูหมอนรองกระดูกเสื่อม แก้ภาวะกระดูกเบียดหรือทับเส้นประสาท ช่วยเสริมโครงสร้างกระดูก (Bone matrix) ให้แข็งแรง
Magnesium
การทำงาน : แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุจำเป็น ที่สำคัญมากในการดูแลและซ่อมแซมกระดูกอ่อนข้อต่อ (Joint Cartilage) และให้กระดูกแข็งแรง บำรุงเส้นประสาท ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ปริมาณต่อวัน : Recommended Daily Allowance (RDA) ผู้หญิง 320 mg ผู้ชาย 450 mg เพื่อการดูดซึมที่ดี แนะนำให้เลือก Magnesium ชนิด Orotate / Oxide / Citrate
ปริมาณสูงสุดที่ปลอดภัย : Tolerable Upper Limit (UL) 350 mg
ต่ำกว่าเกณฑ์ : ภาวะขาดแมกนีเซียม อาจทำให้กล้ามเนื้อเกร็ง เส้นเอ็นตึง ตะคริว เหนื่อยล้า อ่อนแรง เลือดหล่อเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
แหล่งอาหาร : ถั่วลิสง ถั่วเหลือง อัลมอนด์ เนยถั่ว ผักขม มันฝรั่ง
ปฎิกิริยา : กลุ่มยาที่อาจมีผลต่อระดับแมกนีเซียม ยาปฎิชีวนะ (Antibiotics) ยาขับปัสสาวะ (Diuretics) ยาลดกรด (Antacids) ยาระบาย (Laxative)
ผลวิจัย : ในหลายฉบับพบว่าทานอาหารที่ปริมาณแมกนีเซียมสูง ช่วยคลายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ลดปวดข้อเข่า เพิ่มมวลกระดูก ป้องกันกระดูกพรุน หลับง่าย เพิ่มการไหลเวียนโลหิตสู่สมอง ใช้ทดแทนยาคลายกล้ามเนื้อ Orphenadrine (Norgesic) เพื่อลดภาระต่อตับ
ความปลอดภัย : ใช้เสริมต่อเนื่องระยะยาวได้ ยกเว้นผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยง และไม่ควรบริโภคเกิน 350 mg ต่อวัน
ผลข้างเคียง : กรณีเกิดอาการแพ้ เป็นผื่น แดง คัน ท้องเสีย ควรหยุดใช้ทันที
ผลิตภัณฑ์แนะนำ : Mega Magnesium + Vitamin D
Vitamin K2
การทำงาน : วิตามิน K2 มีอยู่ 2 กลุ่มหลักคือ ชนิดสังเคราะห์ (MK-4) และ ชนิดสกัดจากธรรมชาติ (MK-7) ควรใช้ร่วมกับวิตามิน D และแคลเซียมเพื่อบำรุงกระดูก ลดปวดข้อเข่า เสริมระบบไหลเวียนโลหิต ให้ผู้สูงวัย แพทย์ในสหรัฐยังนิยมใช้ชะล้างคราบหินปูนสะสมในหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ และแก้ปัญหากระดูกงอก
ปริมาณต่อวัน : 45 mcg
ปริมาณสูงสุดที่ปลอดภัย : ไม่ถูกกำหนดจำกัดปริมาณในระบบ RDA ของสหรัฐ
แหล่งอาหาร : ผักดอง ไข่แดง ชีส
ปฎิกิริยา : ยาปฎิชีวนะ (Antibiotics)
ผลวิจัย : ทางการแพทย์พบว่าทั้ง Vitamin K1 และ K2 มีผลโดยตรงในการป้องกันภาวะกระดูกบางและแตกร้าวง่าย นักวิจัยยังพบว่า Vitamin K2 เหนือกว่า สามารถปกป้องกระดูกสะโพก สันหลัง และส่วนอื่นๆทั่วร่างกายจากการแตกร้าวได้ดี ในปี 2018 มีผลทดลองในคนไข้กระดูกพรุนที่พบว่า กลุ่มที่มีระดับ Vitamin K และ D ที่เหมาะสม สามารถเดินเหินได้รวดเร็ว คล่องแคล่ว และมีความยืดหยุ่นที่ดีกว่ากลุ่มระดับ Vitamin ต่ำ ผู้ที่ขาด Vitamin K จะเสี่ยงเป็นโรคกระดูกและข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis) สูงขึ้นมาก
ความปลอดภัย : สามารถใช้บำรุงต่อเนื่องได้ 2 ปีขึ้นไป โดยไม่มีอันตรายใดๆ
ผลข้างเคียง : กรณีเกิดการแพ้อาจท้องเสียได้
ผลิตภัณฑ์แนะนำ : ชาวสหรัฐส่วนใหญ่มักได้รับ Vitamin K2 ไม่เพียงพอจากมื้ออาหาร แนะนำให้มองหา Dietary Supplement สูตรที่มีทั้ง Vitamin K2 MK-7 และ D3 เช่น OVOCAL® K2 MK-7 + D3 Supplement with patented K2Vital®
สำคัญมากในการดูแลและซ่อมแซมกระดูกอ่อนข้อต่อ (Joint Cartilage) และกระดูกให้แข็งแรง บำรุงเส้นประสาท ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
Selenium
การทำงาน : สารซีลีเนียมเป็นแร่ธาตุที่มีบทบาทสำคัญต่อการ ป้องกันหรือชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ตามวัย โดยซ่อมแซมถึงระดับดีเอ็นเอ พร้อมช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันข้อเข่าเสื่อมชนิดรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)
ปริมาณต่อวัน : 50-200 mcg
ปริมาณสูงสุดที่ปลอดภัย : ไม่เกิน 400 mcg ต่อวัน
ต่ำกว่าเกณฑ์ : หากได้รับแร่ธาตุซีลีเนียมไม่เพียงพอ อาจมีผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน ระบบต้านการอักเสบตามข้อกระดูก และเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
แหล่งอาหาร : ถั่วบราซิล กุ้ง ทูน่า ไก่ ธัญพืช
ความปลอดภัย : เสริมในปริมาณที่เหมาะสมต่อเนื่องได้ แต่ไม่ควรเกินเกณฑ์สูงสุดต่อวันเพราะอาจเป็นพิษได้
ผลข้างเคียง : อาจเกิดได้หากได้รับปริมาณที่สูงเกินเกณฑ์ต่อเนื่องนาน เช่น ท้องเสีย คลื่นไส้ ผดผื่น เล็บเปราะบาง ผมบาง
ผลิตภัณฑ์แนะนำ : แนะนำ Pharmanod Bio Selenium + Zinc ที่มีส่วนผสมของ Vitamin A + B6 + C + E ร่วมด้วย จึงทำให้เหมาะกับกรณีปวดข้อเข่า ข้อเข่าเสื่อม อักเสบ รูมาตอยด์ และเสริมภูมิคุ้มกัน เป็นแบรนด์ที่มีผลวิจัยรองรับ
Vitamin A
การทำงาน : วิตามินเอเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยรักษาระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเสียสายตา ช่วยให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อของระบบทางเดินอาหารและระบบทางเดินหายใจแข็งแรง รวมถึงเสริมสร้างการเจริญเติบโตของกระดูก
ปริมาณต่อวัน : 3,000 IU
ปริมาณสูงสุดที่ปลอดภัย : 10,000 IU
ต่ำกว่าเกณฑ์ : ค่อนข้างหาได้ยาก ตาบอดกลางคืน และระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
แหล่งอาหาร : ตับ ไข่ นมผสมวิตามิน ผักและผลไม้หลากสี เช่น แครอท แคนตาลูป มันเทศ และผักโขม
ความปลอดภัย : การได้รับปริมาณวิตามินเอจากสัตว์หรืออาหารเสริมที่แนะนำมากกว่า 3 เท่าหรือยิ่งกว่านั้นอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อกระดูกสะโพกเปราะหักได้ อีกทั้งอาหารเสริมเบต้าแคโรทีนยังอาจมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคมะเร็งปอดในผู้สูบบุหรี่
ผลข้างเคียง : ออริสแตท (Alli, Xenical) น้ำมันแร่ ยาคุมกำเนิด ยารักษาสิวโซเตรทติโนอิน (Accutane) อาซิเทรติน (Soriatane) และเบกซาโรทีน (Targretin)
ผลิตภัณฑ์แนะนำ : Blackmores Fish Oil 1000